
2021-10อันดับร้านอาหารสุดฮิตในโซเชียลของไทย
05/10/2021內容目錄
1.The Blooming Gallery ร้านอาหารในสวนใจกลางกรุงเทพมหานคร
ร้าน “The Blooming Gallery” แห่งนี้เป็นร้านอาหารที่เป็นจุดเช็คอินยอดนิยมใน IG เลยทีเดียว ภายนอกร้านตกแต่งด้วยกระจกโปร่งใส ล้อมรอบด้วยตึกสูง ได้อารมณ์ความสดชื่นท่ามกลางป่าไม้เมืองหลวง









ดอกไม้สีสันสดใส ใบไม้สีเขียวขจี กำแพงลายอิฐแดง องค์ประกอบเหล่านี้ถือเป็นหนึ่งในกิมมิคที่สำคัญของร้านอาหารสุดฮิตร้านนี้เลยก็ว่าได้ และร้าน The Blooming Gallery นอกจากจะมีกิมมิคที่กล่าวมาข้างต้นแล้ว ทางร้านยังมีการออกแบบให้เป็นห้องกระจกโปร่งใส เพื่อให้แสงสว่างจากธรรมชาติสอดส่องเข้าไปในตัวร้าน เมื่อถ่ายรูปออกมาจะให้แสงที่สวยงามอย่างแน่นอน












สิ่งที่ค่อนข้างพิเศษของร้านอาหารร้านนี้คือ ไม่มีการขายเครื่องดื่มกาแฟภายในร้าน เมนูเครื่องดื่มจะเน้นไปทางประเภทชาทั้งหมด สภาพแวดล้อมที่รอบไปด้วยความสดชื่นของดอกไม้ นั่งทานสลัดเบาๆในร้าน ปิดท้ายด้วยชากุหลาบสักแก้ว ซึ่งเป็นบรรยากาศสบายๆและแอบโรแมนติกอีกด้วย








ทางร้านยังได้รับคะแนนรีวิวบนอินเทอร์เน็ตที่สูงมากอีกด้วย ด้วยการตกแต่งร้านออกมาให้อารมณ์สดใสให้ความรู้สึกแบบทางฝั่งตะวันตก ซึ่งของตกแต่งในร้านก็มีความเป็นเอกลักษณ์ สวยงามและแมทกันพอดี เหมาะกับการไปนั่งถ่ายรูปชิคชิคเลยแหละ
The Barisotel by The Baristro
ที่อยู่:Sukhumvit 55 | Ei8ht Thonglor,, Bangkok 10110, Thailand
เบอร์โทรศัพท์:+66 2 063 5508
เวลาทำการ:10:00–22:00




2. The Barisotel by The Baristro ร้านกาแฟโทนขาวสไตล์มินิมอล
ย่านธุรกิจในจังหวัดเชียงใหม่จะถูกแบ่งออกเป็นสองโซนคือย่านตัวเมืองและย่านนิมมาน ซึ่งบรรยากาศสบายๆชิลๆของย่านนิมมาน มีร้านกาแฟที่มีการออกแบบคูลๆค่อนข้างมาก โดยร้าน “The Baristro” ให้อารมณ์ความทันสมัย สไตล์การออกแบบของแต่ละสาขานั้นจะแตกต่างกันออกไปเช่นกัน ซึ่งทางร้าน “The Barisotel by The Baristro” ซึ่งมีสไตล์แบบบ้านๆมินิมอลๆ








องค์ประกอบหลักของทางร้านจะเน้นไปที่โทนสีขาวสะอาดตา ทำให้ภายในตัวร้านนั้นมีความรู้สึกอบอุ่นอารมณ์เหมือนอยู่ในบ้านตัวเอง ไม่เพียงแต่สามารถได้ชิมอาหารที่แสนจะอร่อย แถมยังได้ความรู้สึกผ่อนคลายๆสบายๆอีกด้วย




ภายในตัวร้านจะให้อารมณ์ความรู้สึกถึงความวิจิตรบรรจง ตั้งแต่รสชาติกาแฟแต่ละแก้ว ขนมแต่ละชนิด ไปจนถึงการจัดตกแต่งอุปกรณ์ต่างๆ ทำให้ไม่ว่าคุณจะถ่ายรูปจากมุมไหนของร้าน ก็ล้วนทำให้ภาพที่ถ่ายออกมาเลิศอย่างแน่นอน เพราะทั้งพื้นที่และแสงสว่างที่สาดส่องเข้ามาในตัวร้าน ช่างลงตัวเสียจริงๆ












ด้วยสไตล์มินิมอล สะอาดตา การตกแต่งภายในตัวร้าน เฉกเช่นอยู่ในความฝันนี้นั้น ~ เหมาะแก่การถ่ายรูปมาก ๆ ไม่ต้องแปลกใจเลยที่เมื่อร้านคาเฟ่ร้านนี้เปิดให้บริการก็จะกลายเป็นจุดเช็คอินยอดฮิตของหนุ่มๆสาวๆในเชียงใหม่อย่างแน่นอน
The Barisotel by The Baristro
ที่อยู่:199 Mun Mueang Rd, Tambon Si Phum, Mueang Chiang Mai District, Chiang Mai
เบอร์โทรศัพท์:+66 81 898 8998
เวลาทำการ:11:00–22:00




3.The House Restaurant by Ginger ดินแดนแห่งความฝันที่สวยงามแปลกตา
ร้าน The House by Ginger ได้รับการออกแบบโดยนักออกแบบสัญชาติเดนมาร์ก ประกอบด้วยอาคารที่สวยงาม 3 อาคาร ได้แก่ บาร์ ร้านอาหาร คาเฟ่และมีการตกแต่งสไตล์ยุโรป ย้อนยุคและมีการจัดตกแต่งดอกไม้อย่างสวยงาม ให้อารมณ์สุนทรีย์ขณะรับประทานอาหารได้อย่างดี




เป็นสิ่งที่ยากอย่างมากที่จะเชื่อมโยงระหว่างจังหวัดเชียงใหม่ที่เปรียบดั่งเมืองโบราณเมืองหนึ่งที่เงียบสงบกับสถานบันเทิงยามค่ำคืน ซึ่งไม่ต้องเอ่ยปากถึงผับหรือบาร์เลย ร้านอาหาร บาร์และคาเฟ่อย่างร้าน “The House by Ginger” ที่มีสไตล์ย้อนยุคบวกกับความแปลกใหม่ ซึ่งร้านอาหารร้านนี้ใช้สีสันที่สะดุดตามาทะลายกรอบเดิมๆออกไป








มนต์เสน่ห์ของอาหารถือเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมาก ในการที่จะทำให้ลูกค้าสามารถนั่งรอได้ตลอดทั้งคืน โดยทางร้านเองมีความชำนาญเป็นอย่างมากในด้านอาหารไทย ตัวอย่างเมนูอาหารที่เชฟแนะนำคือปลากะพงทอด โดยใช้วิธีการทอดเพื่อให้เนื้อของตัวปลาที่มีความสดนั้นเด้งขึ้นและหนังของปลามีความกรอบ ต้องกินร้อนๆเท่านั้นถึงจะอร่อย หลังจากนั้นก็ราดซอสสูตรพิเศษของทางร้าน พอกัดเข้าไปคำแรกจะโดนหนังปลาที่กรอบจนทำให้มีความสุขจนหยุดไม่อยู่ พอกัดเข้าไปคำที่สองเจอเนื้อปลาที่เนื้อแน่นฉ่ำอยู่ในปาก เมนูนี้เหมาะอย่างมากที่จะทานเป็นมื้อค่ำและเหมาะอย่างยิ่งที่จะทานเป็นกับแกล้ม








เมื่อตกยามค่ำคืน ทุกๆช่วงเวลาภายในร้าน The House by Ginger ล้วนเปรียบดั่งความฝันที่แสนจะงดงามยากจะลืมเลือน ทำให้ผู้คนอยากดื่มด่ำเสียงเพลงที่บรรเลงไปพร้อมกับค็อกเทลสูตรพิเศษ ใบหน้าที่แสดงรอยยิ้มออกมาแบบไม่รู้ตัว ทั้งหมดนี้ทำให้ผู้คนหลงใหลเสน่ห์ยามราตรีของเชียงใหม่ไปเลยทีเดียว




The House by Ginger
ที่อยู่:199 Mun Mueang Rd, Tambon Si Phum, Mueang Chiang Mai District, Chiang Mai
เบอร์โทรศัพท์:+66 53 287 681
เวลาทำการ:11:00–22:00
เว็บไซต์:thehousebygingercm.com




4. Chivit Thamma Da Coffee House ร้านอาหารสไตล์ยุโรปริมฝั่งแม่น้ำสุดชิล




มีร้านอาหารมากมายที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำกก โดยหนึ่งในนั้นคือร้าน Thamma Da Coffee House ซึ่งเป็นร้านที่มีชื่อเสียงโด่งดังมากที่สุด ที่นี่ไม่เพียงแต่จะเป็นร้านอาหารเท่านั้น ทางร้านยังมีบริการสปาอีกด้วย เป็นร้านคาเฟ่ที่ห้ามพลาดเมื่อมาจังหวัดเชียงรายเลยจริงๆ ซึ่งแม้ว่าภายนอกร้านจะมียุงค่อนข้างมาก แต่ทว่าในที่นั่งแถวแรกริมแม่น้ำกกก็ถูกจับจองกันหมดเสียแล้ว ซึ่งตรงนี้เป็นที่นั่งยอดฮิตของเหล่านักท่องเที่ยวกันเลยทีเดียวเชียว เพราะได้เห็นทั้งวิวของริมแม่น้ำ แถมยังเห็นวิถีชีวิตดั้งเดิมอีกด้วย








ภายในสวยมีการตกแต่งสไตล์ยุโรป ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ท่ามกลางสวนสไตล์ยุโรปเล็กๆ ซึ่งในทุกๆมุมในสวนก็ล้วนเหมือนฉากที่เอาไว้ถ่ายทำในภาพยนตร์เลยก็ว่าได้








นอกจากนี้ยังมีเก้าอี้หวายที่เอาไว้ให้ลูกค้าได้นอนเล่น รับลมยามบ่ายในการพักผ่อนที่แสนจะสบายอีกด้วย




สำหรับเมนูอาหารของร้าน Chivit Thamma Da นั้นมีทั้งอาหารสไตล์ตะวันตกอย่างเบอร์เกอร์ อาหารไทย และอาหารไทยฟิวชั่น เรียกได้ว่ามีเมนูอาหารให้เลือกอย่างมากมายแน่นอน ซึ่งทางเจ้าของร้านนั้นชอบทำขนมหวานเป็นพิเศษ เพราะฉะนั้นอย่าพลาดชิมขนมหวานของทางร้านล่ะ
ตึกสีขาวยามราตรีและรถโบราณข้างประตู บวกกับแสงไฟสีเหลืองที่ประดับอยู่ในร้าน ให้อารมณ์ความรู้สึกที่สุดแสนจะบรรยายเลยที่เดียว




Chivit Thamma Da Coffee House
ที่อยู่:179 Moo 2, Bannrongseatean Soi 3, Tambon Rimkok, Chiang Rai 57100, Thailand
เบอร์โทรศัพท์:+6653166967
เวลาทำการ:08:00-21:00
เว็บไซต์:www.chivitthammada.com




5. Ginger Farm Kitchen ร้านอาหารท้องถิ่นแห่งเมืองเหนือ




เป็นร้านอาหารท้องถิ่นร้านเล็กๆในห้างวัน นิมมาน และร้าน The House by Ginger เป็นร้านอาหารที่ก่อตั้งขึ้นที่ตัวเมืองเชียงใหม่ ทั้งสองร้านนี้เป็นร้านที่ผสมผสานระหว่างร้านอาหาร บาร์ ปาร์ตี้น้ำชาช่วงบ่ายและร้านค้าเข้าไว้ด้วยกัน ซึ่งวัตถุดิบหลักมาจาก Ginger Farm Chiang Mai ซึ่งเป็นชื่อเดียวกันกับทางร้าน รูปแบบการตกแต่งภายในตัวล้วนมีเอกลักษณ์เฉพาะของทางฝั่งล้านนา อาหารของร้านนี้รสชาติไม่เลว ขอแนะนำให้ไปลิ้มลองกันเลยล่ะ








การตกแต่งในตัวร้านค่อนข้างสวยงาม มีกลิ่นอายของความเป็นล้านนาซ่อนอยู่ อย่างเช่นชั้นลอย ใบไม้สีเขียวและองค์ประกอบอื่นๆที่ควรจะมีเพื่อให้กลิ่นอายความเป็นล้านนา ซึ่งถูกผสมผสานเข้าด้วยกันอย่างลงตัว ในชั้นบนมีของชำร่วยวางขายอยู่ หากคุณจำเป็นต้องรอคิวที่นั่ง ก็ลองมาเดินเล่นชั้นบนก่อนก็ได้ ชั้นล่างเองก็มีสิ่งของที่ผลิตจากฟาร์มวางขายอยู่ ไม่ว่าจะเป็น แยมผลไม้ ชาผลไม้และข้าวเป็นต้น นอกจากนี้ยังมีเก้าอี้และจานชามที่ใช้ภายในร้านวางขายอีกด้วย








วัตถุดิบการทำอาหารภายในร้าน Ginger Farm Kitchen ล้วนมาจากเกษตรกรในท้องถิ่นทั้งหมด โดยทางร้านยึดมั่นในแนวคิด “จากพื้นนาสู่โต๊ะอาหาร” ซึ่งไม่เพียงวัตถุดิบที่ได้มาจะสดและสะอาดเท่านั้น เกษตรกรในพื้นที่เองยังได้มีช่องทางหารายได้เพิ่มขึ้นอีกด้วย
เลือกใช้วัตถุดิบที่สดใหม่ในการทำอาหาร ทำให้สีสันของอาหารที่ทำออกมาน่ากินมากๆ ซึ่งมีทั้งอาหารดั้งเดิมแบบฉบับเมืองเหนือและอาหารที่ปรับแต่งให้มีรสชาติแปลกใหม่ โดยเฉพาะเมนูน้ำผลไม้เป็นเมนูที่ห้ามพลาดเลยล่ะ




หลังจากรับประทานอาหารและเครื่องดื่มกันจนอิ่มแล้ว คุณสามารถออกไปเดินเล่นบริเวณรอบๆได้ หลังจากทางร้านเปิดไฟในยามค่ำคืน ก็ทำให้บรรยากาศภายในตัวร้านโรแมนติกมากยิ่งขึ้นด้วย




Ginger Farm Kitchen
ที่อยู่:One Nimman Nimmanahaeminda Road, Suthep, Mueang Chiang Mai District, Chiang Mai 50200
เบอร์โทรศัพท์:+66 52 080 928
เวลาทำการ:11:00–22:00
เว็บไซต์:gingerfarmkitchen.com




6. Kum Poon ร้านอาหารอีสานบรรยากาศร่มรื่นในกรุงเทพมหานคร
ร้านอาหารคำพูน เป็นร้านอาหารที่ประกอบอาหารอีสานเป็นหลัก ตั้งอยู่ที่ห้างสรรพสินค้า Central World ซึ่งนับว่าเป็นร้านอาหารไทยราคาถูกที่อยู่ภายในห้างสรรพสินค้า บรรยากาศในการรับประทานอาหารส่วนใหญ่ภายในร้านจะตกแต่งด้วยต้นไม้ใหญ่ พรมสีเขียว เถาวัลย์ คานไม้ โคมไฟที่สานด้วยไม้ไผ่เป็นต้น ซึ่งคล้ายกับการรับประทานอาหารภายในภัตตาคารสีเขียว ที่มีกลิ่นอายเสมือนอยู่ในป่าดงพงไพร และที่นั่งภายในร้านก็มีอยู่เยอะพอสมควร ซึ่งส่วนใหญ่เป็นโต๊ะที่เหมาะสำหรับ2-4ท่าน และโต๊ะกับเก้าอี้จะทำด้วยไม้ทั้งสิ้น บรรยากาศภายในร้านเหมาะแก่การรัวชัตเตอร์อย่างมากเลยทีเดียว








สำหรับอาหารจานหลักของร้านอาหารร้านนี้จะเป็นอาหารอีสาน รสชาติจะค่อนข้างจัดจ้าน อีกทั้งยังมีหลากหลายเมนูให้เลือกรับประทานไม่ว่าจะเป็นอาหารที่ทำจากข้าวหรืออาหารที่ทำจากเส้น ซึ่งราคาก็สมเหตุสมผลอีกด้วยนะ
บรรยากาศในการรับประทานอาหารที่มีสภาพแวดล้อมเสมือนอยู่ในป่าและความประณีตในการทำอาหารนั้นจะต้องทำให้ท่านอยากที่จะรับประทานอาหารมากขึ้นอย่างแน่นอน เหมาะกับการไปนั่งทานกับเพื่อนๆอย่างมากเลยทีเดียวเชียว
Kum Poon
ที่อยู่:999/9 Rama I Rd, Pathum Wan, Pathum Wan District, Bangkok
เบอร์โทรศัพท์:+66 2 646 1044
เวลาทำการ:10:00–22:00




7. Red Sky Bar รูฟท็อปบาร์บรรยากาศโรแมนติกใจกลางกรุงเทพมหานคร
ต้องขอกราบขอบพระคุณคุณสามีขี้เมาที่นำภาพวิวอันสวยงามกลับมาให้เรารับชมกัน ร้าน SKY BARเป็นรูฟท็อปบาร์ที่น่าเที่ยวอย่างมากในกรุงเทพมหานคร ร้านอาหารร้านนี้ไม่เพียงมีราคาที่ไม่แพง เป็นราคาที่เหมาะแก่ชีวิตคนเมือง แถมการเดินทางไปยังร้านก็สะดวกมากอีกด้วยเช่นกัน




ก่อนที่จะเดินทางมายังร้านรูฟท็อปแห่งนี้คุณจำเป็นต้องใส่ใจในเรื่องการแต่งตัวเช่น ห้ามสวมใส่กางเกงขาสั้น รองเท้าแตะ กระทั่งห้ามสวมใส่เสื้อแขนกุดไม่มีปกและมีข้อจำกัดบางอย่างอีกคือไม่สามารถใช้ขาตั้งกล้องและไม่สามารถจองที่นั่งได้ เป็นต้น




ร้าน Red Sky ตั้งอยู่ที่ชั้น 55 โดยร้านจะแบ่งออกเป็นสองโซนคือโซนร้านอาหารและโซนบาร์ ลูกค้าส่วนใหญ่มักจะนั่งดื่มด้านนอกเพื่อดื่มด่ำบรรยากาศที่สวยงามในเมือง สำหรับในโซนร้านอาหารก็แบ่งออกเป็นในตัวอาคารและภายนอกอาคาร เป็นร้านอาหารที่เหมาะอย่างยิ่งที่จะไปฉลองวันสำคัญต่างๆ สำหรับเวลาเปิดทำการคือตั้งแต่18.00น.ถึง23.30น. ซึ่งจะปิดเร็วกว่าโซนบาร์และจำเป็นต้องจองล่วงหน้าอีกด้วย ซึ่งสำหรับโซนบาร์นั้นจะไม่สามารถทำการจองล่วงหน้าได้ ส่วนเวลาทำการของโซนบาร์คือ16.00น.จนถึง1.00น โดยในช่วง Happy Hours ตั้งแต่เวลา16.00น.จนถึง18.00น.นั้นจะมีโปรโมชั่นซื้อ1แถม1 ในส่วนการใช้บริการทั้งหมดจะต้องเสียค่าบริการ10%และค่าภาษี7% อีกด้วย




สำหรับในช่วง Happy Hours นั้นถือได้ว่าคุ้มค่าอย่างยิ่ง สามารถรับชมพระอาทิตย์ตกยามเย็นช่วงเวลา6โมงเย็นที่ร้าน Red Sky Bar และหลังจากเพลิดเพลินกับการรับชมพระอาทิตย์ตกดินแล้ว คุณก็ยังสามารถรับชมวิวทิวทัศน์ในเมืองหลวงที่เต็มไปด้วยแสงสีอีกด้วย ซึ่งนี่เหมือนกับการยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัวเลยทีเดียว ที่ได้เห็นทั้งพระอาทิตย์ตกดินและแสงสียามค่ำคืนของกรุงเทพมหานคร
สำหรับที่นั่งติดกระจกนั้น สามารถทอดสายตารับชมวิวทิวทัศน์ของเมืองหลวงได้อย่างเบิกบานใจ แสงสีชมพูของพระอาทิตย์ที่ค่อยๆตกดินช่างสวยสดงดงาม และหลังจากพระอาทิตย์ตกดินไปแล้ว แสงสว่างของถนนหนทางและตึกต่างๆก็จะค่อยๆสว่างไสวขึ้น ทำให้รู้สึกถึงว่ากรุงเทพมหานครกำลังตื่นขึ้นมา ยิ่งมืดยิ่งมีความมีชีวิตชีวาขึ้นมา ที่ร้านแห่งนี้มีบรรยากาศดีมาก สามารถนั่งชมวิวยามค่ำคืนของเมืองหลวงและพูดคุยกับเพื่อนๆได้อีกด้วย ช่างวิเศษสุดๆ!
Red Sky Bar
ที่อยู่:999 99 Rama I Rd, Pathum Wan, Pathum Wan District, Bangkok.
เบอร์โทรศัพท์:+66 2 100 6255
เวลาทำการ:17:00–23:00
เว็บไซต์:http://www.centarahotelsresorts.com/cgcw/restaurant.asp




8. Zoom Sky Bar & Restaurant รูฟท็อปบาร์ที่สามารถชมวิวได้ 360 องศา ที่โรงแรมอนันตรา




สำหรับกรุงเทพมหานครสถานที่ๆมีแต่ฤดูร้อนที่สุดแสนจะทนได้นั้น ด้วยเหตุนี้เราสามารถใช้ความเย็นสบายในยามค่ำคืน เพื่อมาดื่มด่ำพักผ่อนภายใต้แสงจันทร์ในยามราตรีได้ ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดอย่างหนึ่งเลยก็ว่าได้ สำหรับ ZOOM Sky Bar นั้นเป็นรูฟท็อปบาร์ที่ตั้งอยู่ชั้นบนสุดของโรงแรมชั้นนำของไทยอย่างอนันตรา หากเทียบกับ Red Sky แล้ว ร้านอาหารร้านนี้มีข้อกำหนดเรื่องการแต่งกายน้อยกว่าทางร้าน Red Skyยกตัวอย่างเช่นห้ามสวมใส่ชุดกีฬา รองเท้า และสำหรับผู้ชายห้ามใส่เสื้อกล้ามหรือกางเกงขาสั้นเท่านั้น




เพียงแค่ยืนอยู่ลิฟท์ทางเข้า ก็สามารถทำให้ผู้คนรอชมวิวที่อยู่ด้านบนไม่ไหวแล้ว และห้ามพลาดการไปถ่ายรูปกับผนังที่ทางร้าน zoom เขาตกแต่งไว้ล่ะ ซึ่งตรงนี้เป็นส่วนที่ชาวเน็ตหลายๆคนมักไปถ่ายภาพและเช็คอินกันด้วยน้า




ZOOM Sky Bar จะแบ่งออกเป็นสองชั้น ด้านล่างจะเป็นร้านอาหารภายในตัวอาคาร ซึ่งส่วนมากก็จะรับประทานอาหารตรงนี้ ซึ่งถ้าหากคุณมาเพื่อดื่มแล้วล่ะก็ ขอแนะนำให้ขึ้นไปบนชั้นสอง เพราะว่าวิวทิวทัศน์จะเลิศกว่า








Zoom Bar จะมีที่นั่งอยู่3โซน แบ่งออกเป็นโต๊ะทั่วไป Lounge Couch แบบชิลๆ และ Bar Table ที่เหมาะกับเสือสิงที่มาคนเดียว




ส่วนกลางของห้องอาหารจะมีโซนบาร์ และมีบาร์เท็นเดอร์คอยให้บริการทำเครื่องดื่มให้กับท่านอยู่ เมื่อไปยืนอยู่ที่เคาร์เตอร์บาร์นั้นคุณก็สามารถรับชมวิวทิวทัศน์ของเมืองหลวงได้อีกด้วย เป็นบาร์ที่สามารถชมวิว 360 องศาได้จริงๆ




ณ ที่นั่นจะมี ดีเจ มาเปิดเพลงให้ทุกท่านรับฟังอีกด้วย ซึ่งในส่วนตรงกลางของห้องอาหารก็จะมีพื้นที่เต้นรำให้คุณได้โชว์สเต็ปในหัวใจได้ ซึ่งนี่เหมาะอย่างมากกับการมานั่งดื่ม เม้าส์มอย ฟังเพลงกันกับเพื่อนหรือคนคู่ใจ




นอกจากการลิ้มลองคอกเทลที่มีรสชาติถูกคอสายดื่มแล้ว ก็อย่าลืมเผื่อเวลาในการเดินเล่นรอบๆเพื่อชมวิวยามค่ำคืนของกรุงเทพมหานครล่ะ ที่นี่เหมาะอย่างยิ่งกับการมาพักผ่อนหลังจากเหนื่อยกับงานมาแล้วตลอดทั้งวัน
Zoom Sky Bar & Restaurant
ที่อยู่:40F,36 Naradhiwas Rajanagarindra Rd.,Bangkok.
เบอร์โทรศัพท์: +66 2 210 9000
เวลาทำการ:5:30 – 1:00
FACEBOOK:https://www.facebook.com/ZOOMSkyBar




9. Harrods Tea Room ความอร่อยต้นตำรับเกาะอังกฤษที่อยู่ใจกลางกรุงเทพฯ




Harrods เป็นแบรนด์สัญชาติผู้ดีอังกฤษที่มีหลายสาขาทั่วโลก โดยหลักๆแล้วทางร้านจะขายใบชาและตุ๊กตาของแบรนด์ตัวเอง สำหรับร้าน Tea Room ที่แรกที่ประเทศไทยนั้นตั้งอยู่ที่ภายในห้าง Siam Paragon โดยมีการตกแต่งโทนสีขาวและเต็มไปด้วยกลิ่นอายของความเป็นผู้ดีอังกฤษ ทำให้เราดูไฮโซมากๆ ซึ่งหน้าทางเข้าของร้านจะตกแต่งด้วยพี่หมีตัวใหญ่ เป็นตำแหน่งยอดฮิตที่คนมักไปถ่ายรูปกันเยอะมากๆ




ทางร้านยังขายชารสชาติคลาสสิคจากอังกฤษและตุ๊กตาพี่หมีอีกด้วย แฟนๆตุ๊กตาหมีแบร์ห้ามพลาดกันเลยล่ะ








เจ้าหมีแบร์ที่สามารถพบเจอได้ทุกที่ น่ารักมากๆเลยไอ้ต้าวววว












ซึ่งในระหว่างการรับประทานอาหารก็จะมีพี่หมีไปนั่งข้างๆด้วยนะ ~ประทับใจเหล่าสาวๆอย่างแน่นอน~




มาดื่มด่ำชายามบ่ายกันเถอะ โดยเมนูของร้านอาหารร้านนี้จะเน้นที่ของหวานและชาเป็นหลัก ~ เมื่อคุณมาเดินช็อปปิ้งที่ห้างสรรพสินค้า ก็มาแวะพักผ่อนถ่ายรูปที่ร้าน Harrods Tea Room ได้นะ
Harrods Tea Room
ที่อยู่:G Floor, Central Zone, Siam Paragon Pathumwan
เบอร์โทรศัพท์: +66-2-683-9300
เวลาทำการ:AM10:00~PM22:00




10. Patom Organic Living คาเฟ่กลาสเฮ้าส์ที่โอบล้อมด้วยธรรมชาติ
คาเฟ่ Patom Organic Living เป็นแบรนด์อาหารออร์แกนิคสำหรับสายเฮลตี้ของประเทศไทย มีการผสมผสานระหว่างผลิตภัณฑ์ออร์แกนิคกับขนมหวานไทยและกาแฟ ซึ่งการเดินทางไปยังร้านสะดวกมากอีกด้วย เพียงแค่ขับรถจากสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส ทองหล่อแค่10นาทีเท่านั้น นับว่าคาเฟ่ร้านนี้เป็นพื้นที่โอโซนขนาดย่อมท่ามกลางเมืองหลวงก็ว่าได้ ที่นี่มีผลิตภัณฑ์ให้เพื่อนๆเลือกเยอะแยะมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนๆที่ชอบอาหารออร์แกนิคหรืออยากมานั่งดื่มกาแฟและลิ้มรสของหวานก็ตาม












ตั้งแต่ก้าวขาเข้าสู่ประตูของร้าน ก็จะพบเห็นสีเขียวขจีของต้นไม้ใบหญ้า คาเฟ่แห่งนี้เปรียบดั่งสวนลับที่มีกลาสเฮ้าส์ซ่อนอยู่ท่ามกลางความวุ่นวายของเมืองหลวง มันยากที่จะจินตนาการว่าท่ามกลางเมืองหลวงที่มีแต่ความวุ่นวายมีคาเฟ่แบบนี้อยู่ด้วย








Patom Organic Living มีผลิตภัณฑ์ดูแลผิวจำหน่ายอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีผลิตภัณฑ์ออร์แกนิคอื่นๆที่โชว์อยู่ในกล่องใสวางขายอยู่อีกด้วย โดยทาง Patom นั้นมุ่งมั่นที่จะรักษาและสืบทอดชีวิตความเป็นอยู่ดั้งเดิมของคนไทย และทางแบรนด์เองยังมีการทำความร่วมมือกับเกษตรกรในการทำเกษตรแบบออร์แกนิคอย่างต่อเนื่อง เพื่อมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ดูแลผิวและอาหารแบบดั้งเดิมอีกด้วย








ขนมหวานที่ทำออกมาอย่างจำกัดในแต่ละวันนั้น มีลักษณะรูปทรงที่น่ารัก มีหลากหลายรสชาติ ทั้งของคาวและหวานต่างเป็นที่ชื่นชอบของลูกค้าเป็นอย่างมาก ในส่วนของราคาก็จับต้องได้ โดยราคาขนมหวานแต่ละชิ้นนั้นจะอยู่ที่ประมาณ50-100บาท ซึ่งทางร้านมีตัวเลือกให้ลูกค้าได้เลือกรับประทานมากมาย ซึ่งนอกจากจะขายขนมหวานและกาแฟแล้ว ทางร้านเองยังมีข้าวและก๋วยเตี๋ยวขายอีกด้วย




สำหรับชื่อเสียงของทางร้าน Patom organic living ไม่เพียงสามารถดึงดูดชาวไทยได้เท่านั้น ชื่อเสียงของทางร้านยังสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติให้ไปถ่ายรูปได้อีกด้วย คาเฟ่กลาสเฮ้าส์แห่งนี้ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเหมาะแก่การถ่ายรูปมากๆ ราคาก็จับต้องได้ แต่ที่นั่งนั้นน้อยไปหน่อย ซึ่งถ้าหากเดินทางไปช่วงวันหยุดล่ะก็ ก็เตรียมตัวเตรียมใจใจในการต่อคิวด้วยล่ะเพื่อนๆ
Patom organic living
ที่อยู่:49/6 Khlong Tan Nuea, Watthana, Bangkok 10110泰國
เบอร์โทรศัพท์:+66 2 084 8649
เวลาทำการ:09:00~18:00 週一店休
เว็บไซต์:Patom organic living



